วันอาทิตย์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2560

#ฟิคของเต้าหู้ After the bullet shooting 60%

ในโรงรถเก่าๆหลังหนึ่งในบ้านร้างชื้นเหม็นอับ ซึ่งไม่ควรที่จะมีใคร หรือตัวอะไรเข้าไปอาศัยอยู่ ในเวลานี้ สถานที่ที่เคยเงียบงัน กลับมีเสียงหัวเราะเฮฮาของเหล่าวัยรุ่นดังเล็ดลอดออกมาจากประตูโรงรถที่ปิดสนิท พร้อมๆกับแสงไฟที่กระพริบลอดออกมาจากช่องลมก็ดี กระจกหน้าต่างก็ดี บ่งบอกให้รู้ว่ามีคนอยู่ที่นี่ ทว่า.. คนที่อยู่ข้างในเป็นใคร แล้วมาทำอะไรที่นี่ดึกๆดื่นๆล่ะ? "ฮ่าๆๆๆ ไฮแล้วอ่ะดิมึง กูบอกแล้วว่ายามันแรง" "มึงไปได้ล็อตนี้มาจากไหนวะ ล็อตของพี่แบคมันไม่ได้ดีขนาดนี้นี่หว่า" จงฮยอน มองเพื่อนที่กำลังสุขสมกับสารเคมีที่ถูกฉีดเข้าไปในร่างกาย พลางหันมามองเพื่อนอีกคนที่เป็นคนหาเจ้าสารเคมีนี่มาให้ลอง "พอดีกูไปซื้อละเขาแถมมาว่ะ" "มึงจะบ้าเหรอวะเร็น ยาดีขนาดนี้เขาจะแถมมาฟรีๆเนี่ยนะ" จงฮยอนหยิบถุงยาขึ้นมาดูอย่างพินิจพิเคราะห์ ผลึกสีขาวใสยังคงหลงเหลืออยู่ในซอง แต่เขาไม่คิดจะลองมันหรอก เขาเป็นแค่คนดูลาดเลาและเก็บศพเมื่อพวกนั้นไฮเต็มที่ "เขาก็บอกให้กูบอกที่อยู่เป็นการแลกเปลี่ยนไง" "ละถ้าคนที่แถมยาเป็นนกต่อตำรวจมึงจะทำยังไงวะ" เป็นอันรู้กันว่า คำว่า ที่อยู่ หมายถึงสถานที่เล่นยากันนี่เอง "เป็นไปไม่ได้หรอกมึง ตำรวจที่ไหนจะพกยาเดินไปเดินมาข้างนอก" เร็นคว้าถุงยากลับมาจากมือของจงฮยอน เพื่อที่เขาจะได้ใช้มันบ้าง "ละผู้ค้าที่ไหนเขาจะแถมยามึงมาขนาดนี้" "ช่วยไม่ได้นี่ เพิ่งซื้อมาเมื่อเที่ยงนี้เอง" "เดี๋ยวก่อน.... มึงไปซื้อยากลางวันแสกๆเลยเหรอวะ!" "ไม่เป็นไรหรอก นี่ของดีเลยนะมึง คุณภาพสุด" "มึง กูรู้สึกลางไม่ดีเลยว่ะ" ก๊อกๆๆๆๆๆ "เอาน่ามึง ก็ซื้อมาแล้วป่ะวะ กูไปเปิดประตูละ" "เชี่ย! เดี๋ยว" ไม่ทันแล้ว... จงฮยอนคิดในใจ เพราะเมื่อเร็นเปิดประตู ก็เจอกับตำรวจนับสิบนายยืนรออยู่ หนึ่งในนั้นมีเขาด้วย... "ไอ้เหี้ยฮวัง.." จงฮยอนพึมพำ ก่อนจะหันไปมองเร็นที่หน้าซีดเผือด "คนไหนที่มึงไปซื้อยาด้วย" เขากระซิบ "คนหัวทองๆคนนั้นนั่นแหละ..." "ชัดเลย.. วิ่ง!!!!!" พูดจบ จงฮยอนก็ตัดสินใจกระโดดออกนอกหน้าต่างหลังโรงรถ กองกำลังตำรวจกระจายกำลังทันที โดยบางส่วนเข้าคุมตัวเพื่อนอีกคนที่ยังคงอยู่ในฤทธิ์ยา อีกส่วนไล่ตามเร็น ซึ่งเขาไม่รู้ว่าเร็นไปทางไหนกันแน่ และส่วนสุดท้าย ก็กำลังไล่ตามเขาอยู่นั่นเอง โดยมีนายตำรวจหัวทองคุมเชิงอยู่ อย่าหาว่าเขาทิ้งเพื่อนเลย เวลาแบบนี้ใครๆก็ต้องหาทางเอาตัวรอดให้ตัวเองก่อนทั้งนั้นแหละ อีกอย่าง เร็นคงหาทางหนีได้อย่างสบายๆอยู่แล้ว เขาแค่ต้องวิ่งไปคนละทางเท่านั้น อย่างน้อยๆ เวลาตายจะได้มีแค่ศพเดียว ปัง!!! กระสุนนัดแรกถูกปล่อยออกมาจากกระบอกเหล็กสีดำสนิท จงฮยอนก้มตัวลงต่ำ ก่อนจะออกวิ่งไปต่อ โชคดี..หรืออาจจะโชคร้าย ที่มันพลาดเป้าหมายไป ทำให้มินฮยอนตัดสินใจ เหนี่ยวไกอีกครั้ง ทางด้านจงฮยอนที่มัวแต่วิ่งไปข้างหน้าไม่ทันระวัง คราวนี้ มัจจุราชสีดำจึงได้พบกับเป้าหมาย ภาพในอดีตย้อนกลับมาในสมองของจงฮยอนเป็นจำนวนมาก หนึ่งในนั้นมีฮวัง มินฮยอน เพื่อนเล่นสมัยเด็กที่สนิทกันมากๆในตอนนั้นอยู่ด้วย แต่อดีตที่สวยงามนั้นมันเปลี่ยนไปหมดแล้ว... เพื่อนสมัยเด็กที่เคยโตมาด้วยกัน เด็กชายคิม จงฮยอนและเด็กชายฮวัง มินฮยอนทั้งสองคนเคยสนิทกันมากขนาดที่ว่าเคยให้สัญญากันว่าจะอยู่ด้วยกันตลอดไป ในตอนนี้ เด็กชายฮวัง มินฮยอน ได้กลายเป็นนายตำรวจฮวัง เรียกได้ว่าโตมาอย่างมีคุณภาพ ผิดกับเด็กชายคิม จงฮยอนที่เสียแม่ไปไม่นานนักหลังจากที่เขาเข้ามัธยม หลังจากนั้นเขาก็โดนคุณนายแม่เลี้ยงเพ่งเล็งมาตลอด ทั้งสองคนไม่ได้ติดต่อกันนานมากแล้ว แต่ใครจะคิดล่ะ ว่าจะได้เจอกันอีกครั้งในสภาพนี้ ในสภาพที่เขาได้เห็นหน้าตอนที่มีชีวิต และตอนที่ไร้ลมหายใจด้วยฝีมือของเขาเอง "จงฮยอน!!!!!!!!!!!!!!" ............................................................. 'อ่า.. นี่ฉันอยู่ที่ไหนกันล่ะเนี่ย' เสียงความคิดดังขึ้นในหัว หลายคนอาจคิดว่าเขาคงจะอยู่โรงพยาบาล ในห้องดับจิต แต่ห้องดับจิตที่ไหนมันมืดขนาดที่ว่ารู้สึกว่าตัวเองลืมตาแล้วแต่ก็ยังมองไม่เห็นแม้กระทั่งร่างตัวเองล่ะ? 'จำได้ว่าโดนยิงนี่นา แล้วทำไมฉันถึงมาอยู่ตรงนี้ล่ะ? นี่ฉันตายแล้วเหรอวะ' จงฮยอนคิดอย่างไม่เข้าใจ ระหว่างที่เขากำลังคิดอะไรเพลินๆอยู่นั้น ก็มีแสงเรืองๆสีแดงสดส่องสว่างมาจากที่ใดสักแห่ง ระหว่างที่กำลังตัดสินใจว่าจะเข้าไปดีมั้ย แสงสีแดงที่ว่านั่นก็กลายเป็นประตูบานใหญ่แล้วจึงเปิดออก เหมือนมีเครื่องดูดฝุ่นขนาดยักษ์ถูกติดอยู่ ร่างทั้งร่างของจงฮยอนถูกดูดลอยหวือเข้าไปในประตูบานนั้น อยากร้อง.. แต่ไม่มีเสียง ตอนนี้เขารู้สึกเหมือนกำลังตกลงมาจากที่สูงสักหลายพันเมตร รอบข้างมืดมิด เหมือนอวกาศ หลายนาทีผ่านไปเขาก็ยังไม่ตกถึงพื้น จากตอนแรกที่กลัวก็กลายเป็นความเบื่อหน่าย จึงตัดสินใจหลับตาลง เผื่อว่าตอนที่เขาจะตายอีกรอบจะได้ไม่ต้องเจ็บมากนัก... ตู้ม!!!! เขาสัมผัสได้ว่าตัวเองตกลงมาในน้ำ แต่แล้วยังไง คิมจงฮยอนว่ายน้ำไม่เป็น 'เพิ่งโดนยิงมา ละมาจมน้ำตายต่อเหรอวะ' เขาเหยียดยิ้มสมเพชให้กับตัวเอง รู้สึกได้เลยว่าอึดอัด หายใจไม่ออก น้ำเข้าปอดเป็นลิตรๆแล้วมั้งตอนนี้ "ตู้ม!!!" เสียงน้ำแตกกระจายดังขึ้นอีกรอบ ก่อนที่จงฮยอนจะรู้สึกว่าตัวเขาถูกฉุดให้ขึ้นจากน้ำ อ่า.. รอบนี้เขาเกือบตายสินะ ก็นับว่าแปลกที่วิญญาณแบบเขายังคงมีความรู้สึกแบบมนุษย์ แต่จงฮยอนคิดว่าคงเพราะเขายังไม่ชิน จึงไม่ได้ใส่ใจ สักพัก เขาก็รู้สึกว่าร่างของเขาถูกเขย่าจนหัวสั่นหัวคลอน "แค่กๆๆ" จงฮยอนไอออกมาอย่างแรง ก่อนจะโกยอากาศเข้าปอดอย่างรวดเร็วจนแทบสำลัก จงฮยอนหันไปมองหน้าคนที่ช่วยชีวิตเขาไว้ เขาไม่อาจเชื่อสายตาตัวเองได้เลย ฮวัง มินฮยอน นายตำรวจหัวทองที่ยิงเขาตาย กำลังนั่งต่อหน้าเขา แถมยังเป็นคนช่วยชีวิตเขาไว้ด้วย แต่มนุษย์สัมผัสตัวผีได้ด้วยเหรอ? "ไอ้เจ ทำไมถึงจมน้ำได้วะ ว่ายน้ำเป็นไม่ใช่เหรอ" เจ? ใครคือเจ จงฮยอนขมวดคิ้วพลางมองสำรวจใบหน้าของผู้ช่วยชีวิตตัวเอง ใบหน้าที่เหมือนถูกถอดแบบจากมินฮยอนเพื่อนสมัยเด็กของเขาราวกับแกะ เขาไม่อยากเชื่อว่านี่คือคนอื่น... ที่ไม่ใช่เพื่อนสมัยเด็กของเขา คนที่หน้าเหมือนมินฮยอนคนนี้ไม่ใช่คนที่ยิงเขาตายเมื่อคืน... ไม่มีทางที่มินฮยอนหัวทองคนเมื่อคืนจะหัวดำในวันนี้ได้ แต่ความที่หน้าคล้ายมินฮยอนคนที่ยิงเขาตายจึงทำให้เขาไม่ชอบหน้าชายคนนี้เท่าไหร่นัก "คุณเป็นใครครับ" คนที่หน้าคล้ายมินฮยอนทำหน้างง ก่อนจะพูดขึ้น "เป็นอะไรอ่ะ จมน้ำแล้วสมองกลับเหรอมึง" เป็นคำตอบที่ไม่ค่อยทำให้เขากระจ่างสักเท่าไหร่ แต่เหมือนว่าคนตรงหน้าจะสนิทกับเขาพอดู "คุณคือใครเนี่ย" จงฮยอนยังคงถามคำถามเดิม "อะไรอ่ะ จมน้ำละลืมกูเฉย นี่มินไงครับ มินเพื่อนเจไง" มิน? จำได้ว่าเขาไม่มีเพื่อนชื่อมินเสียหน่อย ถ้าจะมีมินก็มีแต่มิน..ฮยอน ไม่ใช่ หมอนั่นยิงเขาตาย ไม่ใช่เพื่อนของเขาอีกต่อไป จงฮยอนค่อยๆลุกขึ้นจากขอบสระอย่างมึนงง ท่าทางว่าจะมีเรื่องให้เขาปวดหัวตามมาอีกเยอะพอดู เริ่มจากอย่างแรก... "ที่นี่ที่ไหนวะเนี่ยยยยยยยย!!!!" ................................................. "หมายความว่าไงที่ว่ามึงไม่ใช่เจ หน้ามึงก็หน้าเจ ร่างกายก็ของเจ" มิน ชายที่หน้าคล้ายมินฮยอนถามขึ้น "บอกว่าไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ดิวะ ข้างนอกอ่ะเป็นเพื่อนมึงก็จริง แต่ข้างในมันไม่ใช่เว่ย" จงฮยอนตอบ "ไหน ข้างในไม่ใช่ยังไง ขอดูหน่อย" พูดจบก็พุ่งเข้ามาทำท่าจะเปิดเสื้อเขาดู "เล่นเหี้ยอะไรของมึง!!!" โครม!!! "เจ็บนะโว้ย!!!" มินนอนกุมท้องตัวเองอยู่บนพื้นห้องโอดครวญ หลังจากที่เขาโดนจงฮยอนในร่างเพื่อนสนิทถีบเข้าเต็มรัก "สมหน้า" จงฮยอนมองคนหน้าคล้ายมินฮยอนแต่ผมสีดำปีนขึ้นโซฟาด้วยหางตา ช่วยไม่ได้ อยากมาทำท่าจะลวนลามเขาเอง จงฮยอนสู้คนนะบอกเลย "สรุปคือมึงไม่ใช่เจ" "เออดิ" "ละมึงเป็นใคร ทำไมมาอยู่ในร่างเพื่อนกู" มินนั่งกอดอกพิงพนักโซฟาด้วยใบหน้าจริงจัง "กูชื่อจงฮยอน โดนยิงตาย แล้วก็เกิดอะไรขึ้นสักอย่าง รู้ตัวอีกทีกูก็อยู่ในสระแล้ว" จงฮยอนในร่างเจพูดด้วยท่าทีสบายๆ ถึงแม้ว่าเขาจะเพิ่งถูกยิงจนตายมาไม่ถึงยี่สิบสี่ขั่วโมง "โดนยิงตาย!?! ไปทำอิท่าไหนล่ะนั่น" จงฮยอนลอบขำเมื่อเห็นว่าคู่สนทนาพูดเหมือนกับว่าเขาหกล้มแล้วกลิ้งตกคลองยังไงอย่างนั้น "ยาเสพติด พอดีเจอตำรวจแล้วหนี เพื่อนแม่งโง่" จงฮยอนยักไหล่ ป่านนี้เร็นจะเป็นยังไงบ้าง อาร่อนอีก หมอนั่นรับยาไปขนาดนั้นคงรอดยากพอดู "....." "......" ต่างคนต่างเงียบ ก่อนที่มินจะเป็นฝายพูดขึ้น "มึงนี่แต่งเรื่องเก่งใช้ได้เลยว่ะ" "กูไม่ได้แต่ง!!" จงฮยอนแหวกลับ แน่ล่ะ เรื่องมันออกจะไม่ค่อยน่าเชื่อถือเท่าไหร่ ไม่แปลกที่มินจะไม่เชื่อ เขาเองยังไม่อยากจะเชื่อตัวเองเลย "ถ้าไม่ได้แต่ง แล้วเจไปไหนล่ะ" "ไม่รู้สิ ตายห่าตั้งแต่อยู่ในสระแล้วมั้ง" จงฮยอนสันนิษฐานเล่นๆ เพราะในเมื่อร่างนี้มีวิญญาณของเขาอยู่ วิญญาณของร่างต้นนี่ก็คงหลุดไปที่ไหนสักที่ บางทีอาจเป็นยมโลก ".…...." "ถ้าเกิดเพื่อนมึงตายจริงๆ... จะฆ่ากูก็ได้นะ" จงฮยอนพูดช้าๆ ถึงเขาจะได้ชีวิตใหม่แต่การไปช่วงชิงชีวิตคนอื่นก็ไม่ใช่อะไรที่เขาชอบ "แต่เพื่อนมึงคงไม่กลับมาเหมือนกัน" "กูก็คิดแบบนั้นแหละ" มินถอนหายใจ ใบหน้าคล้ายนายตำรวจที่ยิงเขากำลังครุ่นคิด "มึงหน้าเหมือนคนที่ยิงกู" จงฮยอนพูด ในเมื่อคนตรงหน้าไม่ได้พูดสุภาพกับเขา เขาก็จะไม่ถืออะไรมากมาย "ขนาดนั้นเลย?" "เออ แต่คนที่ยิงกูหัวทอง" จงฮยอนพยักหน้า "กูว่ากูก็จะไปย้อมผมอยู่" จงฮยอนส่ายหัวเป็นเชิงว่าอย่าทำเลย "มึงหน้าเหมือนเพื่อนสมัยเด็กกูเปี๊ยบ" "หน้าแบบนี้มันโหลเหรอวะ" มินชี้หน้าตัวเองอย่างไม่อยากจะเชื่อ ทำให้จงฮยอนหลุดขำเบาๆ "ก็เพื่อนสมัยเด็กกูอ่ะแหละ ที่ยิงกู" "ห้ะ!!!!" จงฮยอนขำพรืด เขาคิดไว้แล้วว่าจะต้องเกิดปฏิกิริยาแบบนี้ขึ้น "เป็นกูนะ ไม่บอกว่ามันเป็นเพื่อนหรอก จริงๆ" "เห็นหน้ามึงแว้บแรกกูช็อกไปเลยแหละ อีเหี้ย หน้าเหมือนแบบ เหมือนมาก" จงฮยอนพูดพลางชี้หน้าคนหน้าโหล(?) "กูไม่อยากเชื่อเลยว่ะ..." "กูก็เหมือนกันแหละ ใครจะเชื่อว่าตายแล้วจะได้มาอยู่ในร่างที่หน้าเหมือนตัวเองก่อนตาย แถมยังได้เจอคนหน้าเหมือนคนที่ฆ่ากูอีก" "ละสองคนนั้นก็เป็นเพื่อนกันด้วยนะ" "เหอะ ละมึงจะเอาไงต่อ กูกับเจอะไรนั่นไม่ใช่คนคนเดียวกันแล้ว" จงฮยอนถาม "ถือซะว่ากูมีเพื่อนใหม่ละกัน ใจหายเหมือนกันที่อยู่ๆเจก็หายไป" มินหน้าเศร้าอย่างเห็นได้ชัด ถึงอย่างนั้น ก็ไม่ได้แสดงท่าทีโกรธเคืองอะไรเขา ทำให้จงฮยอนรู้สึกผิดอยู่หน่อยๆ "กูขอโทษนะเว่ย แต่มันเลือกไม่ได้" จงฮยอนเอื้อมมือไปตบบ่ามินเบาๆ ใบหน้าคล้ายมินฮยอนทำให้เขาคิดถึงความทรงจำเก่าๆสมัยที่เขายังเป็นเด็กชายจงฮยอน ที่มักจะมาพร้อมกับเด็กชายฮวังมินฮยอนคู่หู ใครจะไปคิดว่าจะโดนเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด... "ฮึ..." จงฮยอนขำออกมาเล็กๆ "มึงร้องไห้?" มินพูด จงฮยอนมองซ้ายมองขวาก็เห็นแต่เขาอยู่คนเดียว แต่ก็ไม่เข้าใจ เขาไม่ได้ร้องไห้เสียหน่อย แต่น้ำอุ่นๆที่เปื้อนเต็มหน้าอยู่ตอนนี้มันคืออะไรนะ... "เปล่า เปล่าซะหน่อย" จงฮยอนปาดน้ำตาลวกๆ ไม่มีเสียงสะอื้น เสียงพูดยังมั่นคง มีเพียงน้ำตาที่ไหลออกมาไม่ยอมหยุด "กูไม่ได้โกรธมึงนะ อย่าร้องไห้ดิ" มินที่ตอนนี้เริ่มมีน้ำตาไหลออกมาเหมือนกันเอื้อมมือเข้าไปลูบหัวของจงฮยอนในร่างเพื่อนสนิทเบาๆ "มึงน่ะ... ชอบเจใช่มั้ย" "!!!!" ใบหน้าคล้ายมินฮยอนชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะหลุดหัวเราะออกมา เป็นเสียงหัวเราะที่ดูจะเศร้าไปสักหน่อย "ขนาดมึงที่เพิ่งมายังดูออก แต่ทำไมเจถึงดูไม่ออกวะ" "เพราะสนิทกันมากเลยมั้ง สนิทแบบที่ว่าดูยังไงก็ดูไม่ออกอ่ะ" จงฮยอนตอบ น้ำตาแห้งเหือดไปพร้อมๆกับความทรงจำที่ถูกฝังกลบไปอีกครั้ง เพราะว่าขุดขึ้นมาตอนนี้ก็คงไม่ได้อะไร "แล้วมึงล่ะ ชอบเพื่อนสนิทมึงรึเปล่า" จงฮยอนไม่ตอบ แต่กลับนึกย้อนไปหาอดีตอีกรอบ ก่อนจะหันไปยิ้มให้มิน เพื่อนใหม่ที่หน้าคล้ายเพื่อนเก่า แล้วลุกเดินสำรวจบ้านของคนที่ชื่อเจ "บ้านสวยใช้ได้เลยนะ" จงฮยอนพูด "แล้วพ่อแม่เจล่ะ" "พวกท่านไปต่างประเทศน่ะ" มินตอบ "ดีจัง" จงฮยอนยิ้มบางๆ ก่อนจะวิ่งไปสำรวจห้องครัว ตอนนี้เขาหิวมากแล้ว และเขาอยากจะกินข้าว แต่ทางที่เขาคิดว่าจะได้เจอห้องครัว กลับเป็นสวนหลังบ้านซะนี่ "มิน ห้องครัวไปทางไหนวะ" แป่ว... ................................. "ในเมื่อมึงชอบเจ แล้วกูเข้ามาอยู่ในร่างของเจ งั้น..." จงฮยอนพูดขึ้นในระหว่างมื้ออาหารของพวกเขาทั้งสองคน "งั้นอะไร" "กูเป็นเจให้เอามั้ย" "อะไรนะ" มินวางช้อนลง พลางเงยหน้ามองจงฮยอนที่กำลังครุ่นคิด "กูเป็นเจให้เอาป่ะ" จงฮยอนพูด "มึงจะบ้าเหรอ มึงกับเจเหมือนกันที่ไหน" มินฮยอนมองจานข้าวที่จงฮยอนเขี่ยมะเขือเทศออกมาแม้กระทั่งเศษเล็กๆ "หน้าตาก็ออกจะเหมือนกันขนาดนี้ คิดซะว่ากูเป็นเพื่อนมึงเหมือนเดิมก็ได้" "แต่มึงเล่าเรื่องมึงให้ฟังหมดแล้วนะ" "กูก็นึกว่ามึงจะเกลียดกูไปเลยไง ที่ไหนได้ ไม่โกรธไม่เกลียดไม่ทุบไม่ตี ไม่เหี้ยไรสักอย่าง" "กูก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน" "ละมึงพูดจริงเหรอเมื่อกี้อ่ะ" "เออ ในเมื่อกูได้เข้าร่างนี้ นิสัยของกูกับเจคงจะไม่ต่างกันเท่าไหร่หรอก... มั้ง" จงฮยอนพูดอย่างไม่แน่ใจ ก่อนจะเขี่ยชิ้นมะเขือเทศที่หาเจอไว้มุมจานอีกครั้ง "เออ กูก็ว่างั้น มึงไม่กินมะเขือเทศเหรอ" "เออดิ กินเข้าไปได้ไง เหม็นจะตายห่า" จงฮยอนย่นจมูก พลางดันกองมะเขือเทศให้อยู่บนขอบจานมากขึ้น "เจก็ไม่กินเหมือนกัน" "แล้วมึงใส่ทำไมเยอะแยะวะไอ้มินนนนนนนน" จงฮยอนเกลียดมะเขือเทศ เจก็เกลียดมะเขือเทศ แต่อาหารที่มินทำให้กลับมีมะเขือเทศอยู่เต็มจาน "ก็กูกิน" "งั้นมึงก็กินไปให้หมดเลยสัส" จงฮยอนตักมะเขือเทศที่แยกไว้ใส่จานของมินที่ใกล้จะหมด "ไม่เอา ของใครก็กินเอง" มินเลื่อนจานหนี ทำให้มะเขือเทศในช้อนร่วงแผละลงบนโต๊ะกินข้าว "ย๊า!! ไอ้มินฮยอน เอ้ย..." จงฮยอนเงียบเสียงลงทันทีเมื่อรู้ตัวว่าเผลอหลุดชื่อเพื่อนสมัยเด็กออกมา "เพื่อนชื่อมินฮยอนเหรอ" จงฮยอนพยักหน้า ไม่พูดอะไรอีก จงฮยอนลุกขึ้นเก็บจาน ก่อนจะเดินขึ้นบันไดหายไป "มิน!!! มินนนนน!!!!" ยังไม่ทันที่มินจะได้เก็บจาน เสียงตะโกนก็ดังขึ้นมาจากชั้นสอง เป็นใครไม่ไปไม่ได้นอกจากเจ หรือจงฮยอนในร่างเจ "เกิดอะไรขึ้น" มินฮยอนถามขึ้นหลังจากที่วิ่งขึ้นบันไดมาถึงชั้นสอง "เจเลี้ยงหมาด้วยเหรอ" จงฮยอนหน้าซีดเผือด เขาไม่ชอบหมา ไม่ชอบมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว เขาไม่คิดว่าร่างใหม่ของเขาจะเลี้ยงหมาไว้ด้วย "ไอ้เต้าหู้นี่อ่ะเหรอ หมาไอ้เจมันแหละ" มินขยี้ขนฟูของเจ้าหมาสีขาวอย่างหมั่นเขี้ยว "เต้าหู้?" จงฮยอนมองไปยังเจ้าสุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนียนตัวเล็กขนฟูอย่างกล้าๆกลัวๆ เจ้าเต้าหู้เองก็ดูเหมือนจะรู้ว่านี่ไม่ใช่เจ้สนายคนเก่า จึงตั้งท่าขู่อยู่หน้าห้อง "ปกติมันขู่เจแบบนี้เหรอ" "ไม่หรอก มันรักเจจะตาย" ได้ยินดังนั้น จงฮยอนก็ถอนหายใจ ก่อนจะค่อยๆย่อตัวลงไปให้เท่ากับเจ้าเต้าหู้ "กูไม่ใช่เจ้านายมึงแล้วนะ ไม่ต้องเข้ามาใกล้กูมากล่ะ เข้าใจ๊?" "โฮ่ง!!! โฮ่งๆๆๆๆๆๆ!!!" จงฮยอนกระโดดหลบทันที นี่แหละ เขาถึงไม่ชอบไอ้สิ่งมีชีวิตสี่ขาที่ใครๆต่างบอกว่าเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์ "อย่างน้อยก็ยืนยันได้ว่ากูไม่ใช่เจ" จงฮยอนพูด พลางเดินหลบๆเจ้าเต้าหู้ที่ถูกมินดึงไว้ จงฮยอนเปิดประตูเข้าไปในห้องห้องหนึ่ง ในนั้นมีเตียงที่ติดจะรก หนังสือการ์ตูนเรียงเต็มชั้น พร้อมทั้งฟิกเกอร์ตัวการ์ตูนวางเต็มโต๊ะ ไหนจะโมเดลกันดั้ม หุ่นยนต์ต่างๆ นี่ยังไม่นับดีวิดีเป็นตั้งที่โต๊ะคอม โปสเตอร์แปะเต็มผนัง ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอนลายตัวการ์ตูนญี่ปุ่น จงฮยอนก้าวเข้าไปในห้องด้วยความตื่นตาตื่นใจ ร่างใหม่ของเขามีของน่าสนใจเยอะมาก ทั้งฟิกเกอร์ลิมิเตดอิดิชั่น กระเป๋า พวงกุญแจ เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ของโอตาคุอย่างแท้จริง "เพื่อนมึงนี่... สุดยอดเลยว่ะ" จงฮยอนค่อยๆลูบสันหนังสือบนชั้นอย่างแผ่วเบา ทุกเล่มได้รับการรักษาอย่างดีแม้จะสามารถรู้ได้ว่าเจ้าของห้องเคยอ่านมัน "มึง.. ไม่ใช่เจจริงๆเหรอวะ" จงฮยอนหันไปหาคนที่ยืนมองอยู่นอกห้องก็พบว่ามินร้องไห้อีกครั้ง จงฮยอนวางหนังสือลงก่อนจะเดินเข้าไปหา "กูขอโทษ.. แต่กูไม่ใช่เจ" ....................................................... เวลาผ่านไปจนถึงฤดูหนาว เขาก็ยังไม่สามารถหาคำตอบได้ว่าเจ้าของร่างนี้ไปอยู่ที่ไหน ใจของเขาก้ำกึ่งอยู่ระหว่างไปยมโลกแล้วจริงๆ กับอยู่ในร่างที่โดนยิง ถ้าสมมติว่าเขาตายไปแล้วจริงๆ ทำไมวิญญาณยังคงอยู่ ทำยังไงเขาถึงจะกลับร่างได้? ใช่ว่าเขาไม่อยากได้ชีวิตใหม่ แต่นี่มันเป็นชีวิตของใครก็ไม่รู้ แค่เพราะบังเอิญหน้าเหมือนเขาก็ไม่ควรจะต้องมาเป็นภาชนะบรรจุวิญญาณหรืออะไรก็ตามแต่ อีกประเด็นหนึ่งคือ.. เขาคิดถึงมินฮยอน ถึงจะบอกว่ามินฮยอนไม่ใช่เพื่อนเขาอีกต่อไปแล้ว มันก็อดที่จะหวนนึกไปถึงความทรงจำเก่าๆไม่ได้ สมัยที่มินฮยอนยังมีคิ้วแค่ครึ่งเดียวจากทั้งหมดน่ะ "ฮึ..." จงฮยอนหัวเราะเบาๆเมื่อนึกถึงเจ้าคนคิ้วโล้นสมัยเด็ก แต่พอหวนกลับมานึกถึงตอนที่มินฮยอนฆ่าเขาก็อดเศร้าไม่ได้ "ตอนที่เหนี่ยวไก.. จะรู้สึกยังไงกันน้า" จงฮยอนลูบหน้าอกบริเวณที่โดนยิง มันน่ากลัวมากเลยล่ะ เขายังจำความรู้สึกได้แม่นทีเดียว กระสุนร้อนฉ่า รู้สึกเหมือนอกแทบไหม้ เจ็บแค่เสี้ยววิแล้วก็ตายไป ตื่นมาอีกทีก็อยู่ในร่างนี้แล้ว "คิดอะไรอยู่" มินเดินมานั่งข้างๆ นานแล้วที่เขาสองคนอยู่ด้วยกัน พ่อแม่ของเจก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะกลับมาแต่อย่างใด "คิดถึงเพื่อน" "เพื่อนคนไหน" "คนที่ยิงกู มันเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด ก่อนที่กูจะเลว" จงฮยอนมองหน้ามิน พาลนึกถึงใครอีกคนที่ตอนนี้คงกำลังไล่จับผู้ร้ายหรือทำคดีอยู่ที่ใดที่หนึ่งในอีกโลก "กูเป็นเพื่อนคนนั้นกูดีใจตายเลย เป็นคนฆ่ามึงแท้ๆ" "มึงคิดถึงเจมั้ย" จงฮยอนถามบ้าง ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา จงฮยอนไม่เคยเห็นมินทำหน้าเศร้าเลยสักครั้งยกเว้นตอนที่เขาเจอกันครั้งแรก "คิดถึงดิ ...คิดถึงมาก ทำไงได้วะ ชอบเขานี่" "อยู่กับเขาก็ให้มันเก่งแบบนี้บ้างเถอะ" จงฮยอนส่ายหน้าเบาๆ พลางมองออกไปด้านนอก ฤดูหนาวของที่นี่หิมะตก ที่ที่เขาจากมาก็หิมะตกเช่นกัน ทำให้ไม่แปลกนักที่เขาจะพาลคิดถึงความทรงจำเก่าๆเป็นรอบที่ร้อยของวัน "แล้วถ้าวันนึงกูไม่อยู่แล้ว... มึงจะคิดถึงกูป่ะวะ" "......." "กูไม่ใช่เจ เพราะงั้น อย่าคิดอะไรกับกูล่ะ"


...............................................


กลางดึกคืนนั้น หิมะตกหนักอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ท่ามกลางพื้นหิมะที่หนาจนเกือบถึงหัวเข่า จงฮยอนกำลังนั่งอยู่บนก้อนหิน มองเหม่อไปรอบๆ ถึงแม้อากาศจะหนาวจนก้อนมวลควันสีขุ่นจะม้วนตัวตามแรงลมหายใจ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ใบหน้าเรียบเฉยนั้นแสดงอาการใดๆออกมา ในตอนนี้ นอกจากหิมะสีขาวแล้ว ไม่ว่าที่ไหนก็ดูไม่คุ้นตาเขาเอาเสียเลย... "มินฮยอนจะคิดถึงกูบ้างมั้ยเนี่ย ...อ่า คิดอะไรอยู่วะ" จงฮยอนเคาะหัวตัวเองเบาๆ เมื่อรู้สึกว่าตัวเองเผลอคิดอะไรประหลาดๆ "ไม่อยากจะยอมรับหรอก แต่กูคิดถึงมึงนะ" เขาว่ากันว่ามองดวงจันทร์แล้วเห็นเป็นหน้าใครแสดงว่าเรามีใจให้ใครคนนั้น ...แต่ในคืนเดือนมืดแบบนี้ เขากลับเห็นหน้ามินฮยอนได้อย่างเด่นชัดแม้ว่าจะไร้ดวงจันทร์และดวงดาว "มานั่งทำอะไรตรงนี้" "...มานี่ได้ยังไงเนี่ย" จงฮยอนถามขึ้น เมื่อเห็นว่ามินนั่งลงข้างๆตัว ลมหายใจพ่นออกมาเป็นควันถี่ เลือดฝาดขึ้นสีที่หน้าจนแก้มแดงปลั่ง เหงื่อไหลทั้งๆที่หิมะตก แสดงให้เห็นว่าเขาเพิ่งวิ่งมา แต่เขาจะวิ่งทำไมนะ ท่ามกลางหิมะและอุณหภูมิติดลบขนาดนี้ "ก็มึงหายไปจากบ้าน กูก็นึกว่าจะหายกลับไปโลกนู้นแล้ว" "กูกลับไปไม่ได้หรอก อย่างน้อยๆก็ตอนนี้" "ถ้ากลับไปไม่ได้ ก็อยู่ที่นี่อย่างถาวรซะสิ" จงฮยอนเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ หลังจากได้ยินประโยคที่มินพูด "หืม... แน่ใจเหรอ กูไม่ใช่เจหรอกนะ ถึงจะหน้าเหมือนก็เถอะ" "แล้วถ้ากูบอกว่ากูไม่สนแล้วล่ะ" ไม่รู้ว่าเพราะแสงไฟที่กระทบใบหน้าหรือเพราะเกล็ดหิมะที่อยู่รอบตัว จะว่าไปเหตุผลพวกนี้ก็ไม่ค่อยจะฟังขึ้นเท่าไหร่ แต่เอาเป็นว่า มันอาจจะทำให้เขารู้สึกร้อนๆหนาวๆที่ใบหน้าได้ก็แล้วกัน "แต่กูยังสนอยู่ โทษทีนะ" มินกระตุกยิ้มมุมปาก มือใหญ่ลูบพวงแก้มนิ่มก่อนจะโน้มตัวลงไปจูบเบาๆที่ริมฝีปากบางที่แห้งแตกเพราะลมหนาว จากรสจูบบางเบาก็เปลี่ยนเป็นเร่าร้อนด้วยฝีมือของคนนำเกม นำพาทั้งคู่มัวเมาไปกับรสจูบร้อนๆท่ามกลางอากาศหนาวเหน็บ "ทั้งๆที่สน.. แต่กลับไม่ผลักไส มันยังไงกันนะ" มินถอนริมฝีปากออกช้าๆ ก่อนจะแกล้งเป่าลมหายใจเป็นควันเข้าใส่หน้าคนที่ยังหลับตาอยู่ "เล่นอะไรของมึงวะเนี่ยห้ะ" จงฮยอนผลักอกแข็งๆของมินออก พลางทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ "หน้าแดงหมดแล้วนะนี่" "ยุ่ง!!" "หึ..." ......................... "บ้าเอ๊ย..." จงฮยอนสบถเบาๆ หลังจากกลับจากการเดินเล่นที่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้อะไรกลับมามากมาย นอกจากไม่ได้แล้วยังเสียอีกด้วย แย่จริง .....ยิ่งเหลือบไปเห็นเจ้าคนหน้าโหลทำหน้าระรื่นแบบนั้นยิ่งไม่สบอารมณ์เข้าไปใหญ่ จะว่ายังไงดี คนหน้าคล้ายเพื่อนสนิทกำลังทำหน้าเยาะเย้ยเขาน่ะ มันน่ารำคาญชะมัด "เลิกทำหน้าแบบนั้นได้แล้ว น่ารำคาญ" จงฮยอนพูด ก่อนจะสะบัดหน้าหนีขึ้นห้องนอนไป "ฮะๆๆๆ" เช้าวันต่อมา จงฮยอนตื่นขึ้นในร่างของเจอย่างไม่สบอารมณ์ เมื่อคืนกว่าเขาจะได้นอนก็ปาเข้าไปเกือบสว่าง แต่ร่างกายของเขามันตื่นเช้าจนชินไปแล้ว เช้านี้เลยเป็นเช้าที่สะโหลสะเหลที่สุดในชีวิตของเขาเลย "อรุณสวัสดิ์" "เช่นกัน" มีเพียงคำทักทายสั้นๆตอนเช้าเท่านั้นที่เกิดขึ้นระหว่างคนสองคน จงฮยอนแอบแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นมินสวมผ้ากันเปื้อน แถมยังตื่นเช้ากว่าเขาเสียอีก จงฮยอนทิ้งตัวฟุบลงบนเคาน์เตอร์ ปล่อยให้มินทำอาหารเงียบๆ ไม่นาน กลิ่นอาหารก็หอมฟุ้งไปทั่วครัว นั่นทำให้จงฮยอนตื่นขึ้น เขาหิว และอาหารที่มินทำนั้นจะต้องอร่อยอย่างแน่นอน เพราะในระหว่างที่เขาอยู่ที่นี่ก็ได้มินมาช่วยทำให้กินตลอด "หิว..." จงฮยอนพูดเบาๆ ทั้งๆที่ตายังไม่ลืมดี ง่วงก็ง่วง แต่ก็หิวเหมือนกัน "ไปนอนก่อนมั้ย เดี๋ยวก็ฟุบทับจาน" มินยกจานข้าวมาวางตรงหน้า มันดูน่ากินทีเดียว จงฮยอนไม่รอช้า ยกช้อนขึ้นตักกิน .....อย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด อร่อยจริงๆด้วยแหละ "ไม่เป็นไร" เขายังคงตักข้าวเข้าปากช้าๆ ทั้งที่ยังหลับตาอยู่นั่นเอง ไม่สนว่าจะตักโดนอะไร เพราะสำรวจมาแล้วว่าไม่มีมะเขือเทศ "แค่กๆๆ..." "สำลักเหรอ" มินวางแก้วน้ำลงก่อนจะหันกลับไปเก็บล้างครัว เพล้ง!!! "แค่ก... แค่กๆๆ" "เห้ย!!!" ....................................... "เกิดอะไรขึ้นเนี่ย มึงป่วยเหรอ" คนป่วยหันหน้าหนี เขาเองก็ไม่สามารถบอกได้เหมือนกัน ว่าตัวเองเป็นอะไร รู้ตัวอีกทีก็มานอนรับน้ำเกลืออยู่ที่นี่เสียแล้ว "หึ ใกล้ตายแล้วมั้ง" จงฮยอนพูด พลางเหลือบมองสายน้ำเกลือที่ถูกเจาะที่หลังมืออย่างสมเพช นี่เขาได้ชีวิตใหม่ไม่ทันไร ก็ต้องมาตายเสียแล้ว คิดได้อย่างนั้นก็แอบเสียดาย แต่พอลองมองมุมกลับ เขาอาจจะได้คืนชีวิตให้เจ แล้วให้สองคนนั้นอยู่ด้วยกันต่อไปอย่างมีความสุข แต่ทั้งๆที่คิดไว้ว่ามันจะต้องดีแน่ๆ ทำไมน้ำตาถึงไหลออกมากันนะ... "ร้องไห้ทำไม" จงฮยอนมองมือตัวเองที่ถูกกุมไว้อยู่ ก่อนจะชักออกมาโดยไม่สนสีหน้าหงอยๆของมิน "เปล่าซะหน่อย ออกไปได้แล้ว" "....." ...................................... เวลาผ่านไป จงฮยอนก็สามารถกลับบ้านได้ ไม่ใช่เพราะว่าหายดีจนใช้ชีวิตได้ปกติ แต่เป็นเพราะว่าอาการทรุดลงจนทีมแพทย์ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แถมยังไม่รู้ซึ่งที่มาของโรค ไม่มีใครรู้ นอกจากตัวของจงฮยอนเอง... ใช่ เขารู้ว่านี่คือสัญญาณบ่งบอกว่าหมดเวลาของชีวิตใหม่แล้ว ถึงจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่ก็ทำให้เขาเรียนรู้อะไรได้มากทีเดียว ก็ต้องขอบคุณมินนั่นแหละ กลับไปก็คงต้องไปเข้าคุก หรืออาจจะใช้ชีวิตอยู่ในยมโลกในฐานะของวิญญาณบาป "พ่อแม่ของเจน่ะ ยังไม่กลับมาอีกเหรอ" จงฮยอนถามขึ้น "พวกท่านงานยุ่งมากเลยน่ะ ปลีกตัวมาไม่ได้เลย" "หึ เป็นพ่อแม่ที่ดีซะจริงๆนะ" จงฮยอนประชด พลางมองไปรอบๆ ตอนนี้เขาอยู่ในห้องนอนของเจ ที่ที่เขาชอบมากที่สุดในบ้านหลังนี้ "มึง ดูการ์ตูนกัน" คนป่วยหน้าซีดพูดขึ้น ทำให้มินรู้สึกไม่ดีนัก คนที่ดื้อรั้นอย่างจงฮยอนพอมาอยู่ในสภาพนี้แล้วมันน่าหดหู่อย่างบอกไม่ถูก "การ์ตูน? ป่วยใกล้ตายละยังจะมาดูการ์ตูนอีก" มินพูดขำๆ แต่ก็เดินไปหยิบแผ่นมาเปิดให้แต่โดยดี "พูดมากจริงมึง" จงฮยอนฟาดเข้าที่หลังกว้างทันทีที่มินเดินมานั่งลงบนเตียง ไม่ทันไร เสียงเพลงการ์ตูนเรื่องโปรดก็ดังขึ้น จงฮยอนโยกหัวไปตามจังหวะเพลงช้าๆ ในระหว่างที่การ์ตูนเล่นมาจนถึงฉากต่อสู้ จงฮยอนก็เพิ่มเสียงโทรทัศน์โดยให้เหตุผลว่าเสียงดังมันน่าตื่นเต้นดี "มึงชอบการ์ตูนเหมือนเจเลยนะเนี่ย ถึงจะชอบคนละเรื่อง แต่ก็เป็นโอตาคุเหมือนกันเลยนะ" มินพูด พลางจ้องภาพเคลื่อนไหวในโทรทัศน์อย่างตั้งอกตั้งใจ "อืม" จงฮยอนขานตอบ "อยากให้มึงหายป่วยไวๆจัง มากัดกับกูต่อ" มินเอนตัวลงมานอนบนตักของจงฮยอน จะว่าไป หลังจากวันนั้น ความสัมพันธ์ของพวกเขาก็กลายเป็นความสัมพันธ์ที่ไม่มีชื่อเรียก "จะให้บอกอีกกี่รอบว่ากูไม่ใช่เจ" "ใช่ เพราะถ้ามึงคือเจ ตอนนั้นกูคงจูบมึงไม่ได้" จงฮยอนเหยียดยิ้ม แก้มร้อนผะผ่าว "เลิกพูดถึงตอนนั้นสักทีเถอะ" มินยักไหล่ ก่อนที่จะหันไปดูการ์ตูนต่อ นานแล้วที่เขาไม่ได้ดูการ์ตูน พอได้มานั่งดูก็ทำให้คิดถึงอะไรเก่าๆได้เหมือนกัน "ไม่หายไปไม่ได้เหรอ..." "......อะไรของมึงอีกเนี่ย กูจะดูการ์ตูน เลิกกวนซะที" จงฮยอนพูดรัวเร็ว เพราะเขารู้ดีว่าเวลาของเขาใกล้จะหมดลงจริงๆแล้ว ที่เร่งเสียงการ์ตูนขึ้นก็เพราะว่ามันสามารถกลบเสียงไอของเขาได้ และที่ไม่อยากให้ใครได้ยินเสียงไอก็เพราะเขาอยากไปอย่างสงบ ไม่มีเสียงร้องไห้ ไม่มีใบหน้าบูดเบี้ยวของคนที่กำลังเสียใจ ไม่มีเสียงสะอื้นและน้ำตา การตายแบบไม่ต้องให้ใครรับรู้และรู้สึกอะไร เป็นสิ่งที่เขาต้องการมากที่สุด ยิ่งได้ตายไปพร้อมกับฉากจบของการ์ตูนที่ชอบก็คงจะดีไม่น้อยเลยล่ะ "ลาก่อนนะ..." การ์ตูนเดินทางมาถึงตอนจบ ชีวิตของเขาเองก็จบลงเช่นกัน มินนั้นยังคงไม่รู้อะไร เพียงแต่ประทับใจกับฉากจบของการ์ตูนนั้นเงียบๆ "เป็นเรื่องที่ดีนะ ว่ามั้ย" ไม่มีเสียงตอบจากคยที่ต้องการถาม แต่มินก็ไม่ได้ใส่ใจ เพราะปกติจงฮยอนก็ไม่ได้มีความเห็นอะไรอยู่แล้ว นี่เขาชินกับการที่จงฮยอนมาอยู่ที่นี่แล้วงั้นเหรอ... "ทุกทีเลยนะ ถามอะไรไม่ตอบสั้นตอบห้วนก็ไม่ตอบเลย" มินลุกออกจากตักของจงฮยอน ก็พบกับใบหน้าไร้สีเลือดของคนที่ชวนเขาดูการ์ตูน ศีรษะกลมโอนเอนไร้หลักยึด ก่อนจะฟุบลงมาเหมือนหุ่นยนต์ที่เครื่องช็อต "จงฮยอน!!! จงฮยอน!!!" มินเขย่าตัว ก่อนจะคว้ามากอดแนบอก น้ำตาลูกผู้ชายไหลออกมาอีกครั้ง น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าไหลลงบนร่างไร้วิญญาณอ่อนปวกเปียก น่าเสียดายที่โลกความเป็นจริงไม่มีปาฏิหาริย์เหมือนในการ์ตูนที่เพิ่งดูจบ จงฮยอนไม่มีทางฟื้นขึ้นมาเหมือนในการ์ตูน น่าขำ ทั้งๆที่การสลับร่างพระเจ้ายังบันดาลให้เกิดขึ้นได้ แต่การทำคนตายให้ฟื้นกลับทำไม่ได้เสียอย่างนั้น "บ้าเอ๊ย!!!!!" ....................................... 'เอาอีกแล้ว... ที่นี่มันที่ไหนกันแน่นะ' จงฮยอนมองไปรอบๆที่มืดมิดอีกครั้ง ยังไงเขาก็ไม่มีทางจำสถานที่แห่งนี้ผิด มันคือที่ที่เขาเจอประตูสีแดงนั่น ทำให้เขาได้เจอกับ...มิน ท่าทางผู้ร้ายปากแข็งก็ยังคงเป็นผู้ร้ายปากแข็งอยู่วันยังค่ำนั่นแหละ 'มิน มินฮยอน ดูแลตัวเองดีๆนะ ทั้งสองคน' ----------------------------- Although I can't go back to you, I'll remember you as long as possible. -----------------------------