วันศุกร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

#มินเจรายปักษ์ 6th THEME : P H O N E 1/2

-----------------------

I just want to hear your VOICE every Morn'

-----------------------


กริ๊งงงงงงงงงงงง!!!


"ครับๆ มารับแล้ววววว สักครู่ๆๆ" ร่างเล็กวิ่งออกมาทั้งที่ยังสวมผ้ากันเปื้อนและในมือยังถือตะหลิว เพื่อมารับโทรศัพท์บ้านที่แผดเสียงลั่นบ้านแต่เช้า


"คิมจงฮยอนพูดสายครับ"



ตู๊ด... ตู๊ด....



"อ้าว วางไปซะแล้ว" จงฮยอนพูดอย่างเสียดาย เพราะเจ้าโทรศัพท์บ้านเครื่องนี้ไม่มีหน้าจอดิจิตอลโชว์เบอร์ที่โทรเข้า เขาจึงไม่สามารถที่จะโทรกลับไปได้



ถ้ามีอะไรสำคัญคงจะโทรกลับมาเองแหละ...



จงฮยอนยักไหล่ ก่อนจะวิ่งกลับเข้าครัวเมื่อนึกได้ว่าตัวเองทอดไข่ดาวค้างไว้ แถมยังเปิดแก๊สทิ้งไว้ด้วยอีกต่างหาก....เมื่อกลับเข้าไปในครัวก็พบว่า ไข่ดาวที่เขาทอดค้างไว้กำลังจะไหม้ดำ แต่จะให้ทอดฟองใหม่ตอนนี้ก็ไม่ทันแล้ว จึงต้องกลั้นใจแล้วเก็บไข่ดาวไหม้นั้นเป็นอาหารเช้าของวัน


"เฮ้ออออ ไม่น่าลืมปิดแก๊สเลยให้ตายเถอะ"

................................

"มาสายนะครับคุณคิม" ฮวัง มินฮยอน ประธานบริษัทหน้านิ่งที่ทำอะไรก็ดูน่าเกรงขามไปเสียหมดทักขึ้นทันทีที่จงฮยอนเดินเข้ามาในห้องทำงานของเขา


"ผมขอโทษครับ..." เมื่อรู้ว่าตัวเองผิดจริง จึงกล่าวคำขอโทษพลางโค้งตัวอย่างนอบน้อม


"ออกไปซะ มีงานอะไรก็ไปทำ" มินฮยอนโบกมือไล่ จงฮยอนลอบถอนหายใจเล็กน้อยที่ไม่โดนหักเงินเดือนและไม่โดนดุ



....สงสัยว่าวันนี้จะอารมณ์ดี



"ครับ" จงฮยอนโค้งให้ ก่อนจะเดินออกจากห้องของประธานบริษัท


"จงฮยอน โดนอะไรรึเปล่า" มินกิ เพื่อนสนิทของเขาที่ได้ทำงานในบริษัทเดียวกันถามทันทีเมื่อเห็นว่าจงฮยอนนั่งลงที่โต๊ะทำงานเรียบร้อย


"ไม่อ่ะ สงสัยวันนี้ท่านประธานอารมณ์ดี"


"ไปอารมณ์ดีมาจากไหนวะ..." มินกิพึมพำเบาๆ ส่วนจงฮยอนก็ได้แต่ยักไหล่เพราะเขาเองก็ไม่รู้เช่นกัน ท่าทางเมื่อวานคงจะมีเรื่องดีๆล่ะมั้ง


ท่านประธานฮวัง ประธานของฮวังกรุ๊ป เหล่าพนักงานในบริษัทต่างรู้ดีว่าเขาเป็นคนไม่แสดงอารมณ์ และมักจะทำหน้านิ่งอยู่ตลอดเวลา โดยปกติแล้ว ถ้าวันไหนไม่มีใครโดนท่านประธานดุจะถือว่าวันนั้น ท่านประธานอารมณ์ดี เพราะทุกๆวัน จะมีพนักงานโชคร้ายที่โดนท่านประธานเหน็บอยู่ทุกวัน
แต่ถึงแบบนั้น... ท่านประธานก็เป็นคนที่เก่งมากทีเดียว เพราะเขาสามารถผลักดันฮวังกรุ๊ปให้กลายเป็นบริษัทส่งออกที่มีชื่อเสียงติดอันดับโลกทั้งที่อายุยังน้อย


"วันนี้จะมีใครโดนมั้ยเนี่ย" มินกิกระซิบถาม เมื่อเห็นมินฮยอนเดินเข้ามาตรวจงานในแผนก สังเกตได้เลยว่าบรรดาพนักงานต่างก็ก้มหน้าก้มตาทำงาน เพื่อหลีกเลี่ยงการโดนดุ



ฝีปากท่านประธานน่ะ ที่หนึ่งเลย...



"คุณหัวหน้าแผนก จอคอมมันหันตามคอของคุณไม่ได้หรอกนะครับ ผมว่าคุณควรจะหันมองมันแทนหน้าของเพื่อนคุณนะครับ" มินกิสะดุ้ง ก่อนที่จะหันกลับมาทำงานเหมือนเดิม


"นายไงมินกิ" จงฮยอนกระซิบ ก่อนจะรีบก้มหน้าทำงานเมื่อรู้สึกถึงสายตาเฉียบคมที่เบนมาทางเขา


"คุณจงฮยอน..." เจ้าของชื่อไม่ได้หันมองหน้าคนเรียก เขารีบคีย์ตัวอักษรในเอกสารด้วยความอึดอัดที่ถูกจ้อง และเมื่อรู้สึกว่า ท่านประธานไม่อยู่ตรงนี้แล้ว จึงเงยหนัาขึ้นแล้วถอนหายใจ


"ท่านประธานนี่ลำเอียงป้ะเนี่ย เขาไม่ว่าอะไรนายสักคำเนี่ยนะ"


"เรายังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ" จงฮยอนส่ายหัวดิก พลางมองหัวหน้าแผนกมินกิขำๆ


"ทำงานเสร็จแล้วไปกินข้าวกัน" จงฮยอนพยักหน้า ก่อนจะก้มหน้าก้มตาพิมพ์เอกสารต่อ

..............................

"จงฮยอน เรื่องโทรศัพท์ที่ว่านั่นน่ะ..." ตอนนี้ พวกเขาอยู่ที่โรงอาหารของบริษัท หลังจากที่ทำงานในช่วงเช้าจนเสร็จ ทั้งจงฮยอนและมินกิก็พากันลงมาหาอะไรกิน และเริ่มเปิดประเด็นขึ้น


"หมายถึงที่ชอบโทรมาตอนเช้าอ่ะเหรอ จะว่าไปก็ยังโทรมาอยู่นะ" จงฮยอนนึกถึงสายโทรเข้าเมื่อตอนเช้า เพราะมันแท้ๆ เขาถึงมาทำงานสายในวันนี้


"แล้วเขาพูดอะไรบ้างมั้ย" จงฮยอนส่ายหัว เพราะเมื่อเขาพูดสายปุ๊บ เจ้าของสายปริศนานั่นก็ตัดสายปั๊บ ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรต่อสักนิดเดียว


"แปลกอ่ะ"


"ใช่มั้ย เราก็ว่าแปลก อยากโทรกลับแต่โทรศัพท์บ้านเราไม่โชว์เบอร์ซะนี่" จงฮยอนกลืนข้าวที่เคี้ยวอยู่ก่อนจะพูดต่อ


"นายว่าเขาเป็นโรคจิตรึเปล่าอ่ะ เขาวางสายทันทีที่เรารับโทรศัพท์ ไม่ได้พูดอะไรเลยเนี่ย"


"เราก็ไม่รู้เหมือนกันแฮะ แต่คงไม่มีอะไรร้ายแรงหรอกมั้ง เนาะ" มินกิชูสองนิ้วให้เพื่อนสนิท ก่อนจะรีบกินข้าวเพราะเขายังคงมีงานค้างอยู่


"ค่อยๆกินสิ เดี๋ยวก็ติดคอหรอก" เพื่อนสนิทหน้าสวยทำสัญลักษณ์โอเค แต่มืออีกข้างก็ยังไม่หยุดตักข้าวเข้าปาก


"หมดแล้ว ไปก่อนนะ นึกได้ว่ามีงานค้าง" มินกิพูดในระหว่างที่เก็บกระเป๋าและเอกสาร


"อื้ม ตั้งใจทำงาน"


"แล้วจะขึ้นไปตอนไหนอ่ะ"


"อีกสักพักแหละ เราไม่มีงานอะไรแล้ว"


"โอเค งั้นเราไปนะ เจอกัน"


"เจอกัน"




อีกด้านหนึ่ง....


"ไงล่ะท่านประธาน กลายเป็นโรคจิตในสายตาเขาไปแล้วนะครับ" คังดงโฮ เพื่อนสนิทควบตำแหน่งเลขาท่านประธานฮวังยิ้มล้อเลียน


"เบื่อคนขี้ป็อดว่ะ ต่อหน้าก็ทำเหมือนจะว้ากเขาตลอดเวลา แต่พอลับหลังก็มาชะเง้อหา คอจะยาวกว่าเจ้าจินยองมันละ"


"เงียบน่า" มินฮยอนหันหลังเดินกลับเข้าตึก ตามด้วยเลขาอย่างดงโฮที่คอยส่งสายตาล้อเลียนอยู่ไม่ห่าง

............................

หลายวันถัดมา...


กริ๊งงงงงงงงงงงงง


"ครับๆๆๆ มาแล้วๆๆๆๆ" จงฮยอนวิ่งออกมาจากในครัวเหมือนอย่างเคย แต่คราวนี้เขาปิดแก๊สและตักไข่ดาวใส่จานไว้เรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องกลัวว่าจะได้กินไข่ดาวไหม้


"คิมจงฮยอนพูดสายครับ"



ตู๊ด.... ตู๊ด....



และเป็นแบบนี้ทุกที เมื่อจงฮยอนเริ่มพูดสาย คนในสายก็จะตัดสายหนีทุกครั้ง ไม่พูดอะไรกลับมาเหมือนตั้งเป็นระบบอัตโนมัติ ว่าถ้าเขาพูดจบเมื่อไหร่ให้ตัดสายได้ทันที บางทีเขาก็แอบรำคาญเหมือนกัน โทรมาได้ทุกวันตอนเช้าๆ บางทีก็เช้ามาก บางทีก็สายมาก เขาเองก็รับบ้างไม่ได้รับบ้าง หนึ่งเพราะถ้าเขาโทรมาในตอนสายแล้วเขามัวแต่รับโทรศัพท์ เขาก็จะไปทำงานช้า บางทีเขาก็หมั่นไส้คนที่โทรมารบกวนเขาในทุกๆวันจนแกล้งไม่รับโทรศัพท์บ้าง



และแปลกที่ว่าวันไหนที่เขาไม่ได้รับโทรศัพท์ ท่านประธานก็จะดูหงุดหงิดมากกว่าเดิมทุกที



"นี่ก็โทรมาทุกวันเลย ถ้าไม่ติดว่ามันเป็นไปไม่ได้นี่จะคิดว่าประธานโทรมาแล้วนะ" จงฮยอนกระแทกหูโทรศัพท์ ก่อนจะเดินกลับเข้าครัวเพื่อทานอาหารมื้อแรกของวัน


จงฮยอนเดินทางมาถึงที่ทำงานด้วยอารมณ์บูดบึ้งเล็กน้อย เพราะเมื่อคืนฝนตก ถนนจึงเต็มไปด้วยน้ำขัง และเขาเกือบจะต้องเปียกเพราะรถยนต์ที่ขับทับแอ่งน้ำนั้น


"ไม่ใช่ฤดูฝนซะหน่อย ทำไมฝนตกหนักจัง" สิ้นเสียงพูด เสียงฟ้าร้องก็ดังขึ้น พร้อมๆกับฝนห่าใหญ่ที่ตกลงมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย


"จะถึงอยู่แล้วเชียว!...หืม?" อยู่ๆ ฝนเม็ดใหญ่ที่ควรจะหยดลงบนหัวก็หยุดลง เมื่อเงยหน้าขึ้นก็พบร่มสีดำคันใหญ่กางคลุมหัวอยู่


"ท..ท่านประธาน!!" เป็นมินฮยอนเองที่เป็นเจ้าของร่มคันใหญ่นั้น ด้านหลังของเขาเป็นรถสีดำคันหนึ่งที่คาดว่าจะเป็นรถของท่านประธาน


"เดินไปสิ ถ้าสายฉันจะหักเงินเดือน"


"ค..ครับ!" จงฮยอนขานรับ ก่อนจะคว้าร่มในมือท่านประธานเตรียมวิ่ง แต่กลับโดนรั้งไว้ก่อน


"ไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้ ผมยังไม่อยากเปียกนะ" ไม่พูดเปล่า ยังแกะมือของจงฮยอนออกจากร่มของเขาด้วย


"อ่า.. งั้นเดี๋ยวผมเดินไปส่งที่รถแล้วกันนะครับ" จงฮยอนพูด พลางยื้อร่มแล้วดันท่านประธานกลับไปยังรถ แต่ดูเหมือนว่ามินฮยอนจะยังยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับเลยสักนิด ถึงจะเซไปบ้างแต่เท้าก็ยังอยู่ตำแหน่งเดิมเป๊ะ


"ท่านประธาน ถ้าไม่รีบผมจะสายนะครับ" จงฮยอนเริ่มหัวเสีย ก่อนจะออกแรงดันประธานบริษัทอีกครั้ง


"คุณสายผมก็สาย แฟร์ดีออก" ท่านประธานพูดหน้าตาย


"แต่คุณหักเงินเดือนตัวเองไม่ได้นี่ครับ" คนกำลังจะสายถอนหายใจ ก่อนจะเลิกยื้อร่มแล้วออกวิ่งทันที


"เดี๋ยว!"

...............................

"ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" และเมื่อเขาเล่าให้ดงโฮฟัง ก็ได้รีแอคชั่นตอบกลับอย่างที่เห็น เจ้าเพื่อนตัวดีของเขาขำจนแทบจะกลิ้งลงไปนอนกับพื้น นี่ถ้าใครมาเห็นคงไม่เชื่อแน่ ว่านี่คือเลขานุการหน้าโหดของท่านประธาน


"เลิกขำที นี่เครียดอยู่"


"ฮ่าๆๆ โอ๊ย ใครจะไปคิดวะ ว่าจงฮยอนจะกล้าเมินประธานบริษัทเพื่อที่จะไม่ไปทำงานสาย จี้โคตรอ่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" มินฮยอนชกเข้าที่ไหล่เพื่อนหนึ่งที โทษฐานที่พูดอะไรไม่ถูกใจ



กะจะทำตัวเป็นพระเอกซะหน่อย นางเอกดันไม่ให้ความร่วมมือซะนี่



"แกว่า..ฉันจะมีหวังบ้างป่ะวะ" มินฮยอนลูบหน้าตัวเองอย่างใช้ความคิด เพราะดูๆแล้วจงฮยอนก็กลัวเขาไม่ต่างจากพนักงานคนอื่นๆ


"จะมีหวัง ถ้าแกพูดอะไรใส่โทรศัพท์ที่โทรอยู่ทุกวันบ้าง ไม่ใช่พอเขาพูดก็กดตัดสาย"


"ก็มันไม่รู้จะพูดอะไรนี่หว่า.. พอได้ยินเสียงหัวก็แบล็งค์เลย" ดงโฮมองเพื่อนสนิทอย่างเหนื่อยใจ อายุก็ปาเข้าไปจะสามสิบแล้ว ถ้าเรื่องธุรกิจจะนับว่าเป็นคนอายุน้อย แต่เรื่องความรักก็ถือว่าควรหาใครสักคนได้แล้ว


"แล้วก็เลิกโทรเข้าเบอร์บ้านด้วย เบอร์มือถือมีก็โทรไป"


"โทรมือถือเขาก็รู้ดิว่าใครโทรมา"


"ละโทรศัพท์บ้านเขาไม่โชว์เบอร์รึไง"


"ไม่โชว์"


"รู้ดีจังวะ ไปละ ยังมีงานค้าง ประธานบริษัทนี้แม่งหางานให้ทำทุกวันเลย" ดงโฮแกล้งบ่น


"อยากได้งานเพิ่มเหรอครับคุณเลขาคัง"


"แบ่งให้คนอื่นทำบ้างเถอะครับ" ดงโฮพูด ก่อนจะหันหลังเดินออกจากห้องทำงานของประธานบริษัทไปเพื่อจัดการงานที่คั่งค้าง


"รีบไปก่อนที่ผมจะสั่งงานคุณจริงๆเถอะ"


"ครับบบบบ" และก็ยังไม่วายที่จะมีเสียงตะโกนตอบกลับมา มินฮยอนก็ได้แต่แยกเขี้ยวใส่เจ้าของเสียงที่คงจะเดินไปไกลแล้ว


"แล้วแบบนี้... เมื่อไหร่ฉันจะได้คุยกับนายจริงๆสักทีนะ"

....................................

กริ๊งงงงงงงงงงงงง


"เอาอีกแล้ว..." พักหลังๆ จงฮยอนเริ่มไม่อยากที่จะรับโทรศัพท์ที่โทรเข้ามาทุกวันตอนเช้าอีกต่อไปแล้ว ยิ่งเมื่อวานนี้เขาต้องทำโอทีจนดึกดื่น และเช้านี้มันควรจะเป็นเวลาที่เขาจะได้นอนกลิ้งอยู่บนเตียงเพราะเป็นวันหยุดแท้ๆ



กริ๊งงงงงงงงงงงงงงง



"ไม่อยากรับเลยอ่ะ ไม่รับได้มั้ยเนี่ย" จงฮยอนพึมพำ ก่อนจะเดินกลับเข้าห้องนอนอีกครั้งเมื่อรู้ว่าเจ้าของสายวางไปแล้ว


"ง่วงชะมัด..."



กริ๊งงงงงงงงงงงงงงงง!!



"โว้ยยยยย!!!!!"



ในเมื่อเป็นแบบนี้.. เขาก็คงจะไม่ใจดีอีกต่อไป...



"นี่!! คุณ!! อย่าวางนะ!!!!"


"....." เมื่อเห็นว่าคู่สนทนาไม่ได้วางสาย จึงพูดต่อ


"คุณโทรมาทำไมครับ ไม่สิ เอาเบอร์บ้านผมมาจากไหน แล้วทำไมโทรมาแล้วไม่พูด เมื่อคืนผมก็ได้นอนน้อยแล้วตอนเช้าก็ยังต้องมารับโทรศัพท์คุณอีก ผมง่วง!!!! ได้ยินมั้ยว่าง่วง!!!!"


"......."


"ไม่พูดก็ไม่ต้องโทรมาอีกนะ!!!"



ปัง!



จบด้วยการกระแทกหูโทรศัพท์อย่างไม่ใยดี มือเล็กดึงสายโทรศัพท์บ้านออก ก่อนที่จะเข้าไปนอนต่อในห้อง พนักงานออฟฟิศเงินเดือนน้อยยังคงต้องการพักผ่อน


"อารมณ์เสียแต่เช้าเลยโว้ย!!!"

จนเลยเวลาเที่ยง จงฮยอนจึงตื่นขึ้น การนอนเต็มอิ่มทำให้เขาสดชื่นแต่ก็ขี้เกียจในเวลาเดียวกัน ร่างเล็กๆของจงฮยอนกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนเตียง เป็นตอนเที่ยงที่อากาศเย็นทีเดียว เพราะตอนนี้ใกล้เข้าฤดูหนาวแล้ว อากาศจึงเริ่มเย็นกว่าปกติ



กริ๊งงง



ไม่ใช่โทรศัพท์ แต่เป็นกริ่งหน้าบ้าน จงฮยอนขมวดคิ้วเล็กน้อยเพราะนานแล้วที่ไม่มีใครมาบ้านเขานอกจากบุรุษไปรษณีย์ แต่เท่าที่จำได้ เขาไม่ได้สั่งของอะไรนี่ บรรดาญาติของเขาก็ไม่มีใครบอกว่าจะมาหา จงฮยอนคิดไปคิดมาพลางเลื่อนประตูรั้วบ้านโดยไม่มองหน้าคนมาหาสักนิด


"จะไม่ทักทายกันหน่อยเหรอ"


"ท่านประธาน... สวัสดีครับ" จงฮยอนโค้งหัวให้ เขาไม่รู้สักนิดว่าประธานบริษัทมาหาเขาด้วยเรื่องอะไร วันนี้ก็เป็นวันหยุดของเขาด้วย ถ้าเป็นเรื่องงานมันจะไม่ด่วนเกินไปหรือ


"มาหาผมมีเรื่องอะไรรึเปล่าครับ" จงฮยอนไม่กล้าสบตาท่ายประธานเท่าไหร่ เพราะว่าวันนี้เป็นวันหยุดเขาจึงตื่นสาย เพิ่งได้แปรงฟันและยังไม่ได้อาบน้ำ


"อ่า เข้ามาก่อนเถอะครับ บ้านผมรกหน่อยนะ" จงฮยอนผายมือเชิญมินฮยอนเข้าบ้าน ก่อนจะปิดรั้วแล้วตามอีกคนเข้าบ้านไป


"นี่บ้านนายเหรอ"


"ใช่ครับ" จงฮยอนวางแก้วน้ำลงบนโต๊ะอย่างเกร็งๆ นี่เป็นครั้งแรกที่ประธานมินฮยอนมาที่บ้านของเขา แถมยังได้เจอเขาในสภาพที่ไม่พร้อมสุดๆ หัวฟูเป็นรังนก น้ำก็ยังไม่ได้อาบ เขายังอยู่ในชุดนอนลายทางสีอ่อนตัวเก่งอยู่เลย


"ถ้าไม่ว่าอะไร ผมขอไปแต่งตัวก่อนแล้วกันนะครับ" ไม่รอให้มินฮยอนได้ตอบอะไร ร่างเล็กในชุดนอนก็หนีกลับเข้าห้องนอน สักพักเสียงฝักบัวก็ดังขึ้น


"ไม่เปิดโอกาสให้พูดเลยแฮะ" มินฮยอนพึมพำ พลางมองประตูห้องนอนที่เพิ่งถูกปิดลง



ถ้าเกิดจะขอเข้าไป.. จะเป็นอะไรมั้ยนะ



.....แต่สุดท้าย ท่านประธานบริษัทจอมปอดก็ไม่ได้เข้าไปในห้องนอนของคนตัวเล็กจริงๆหรอก เขาแค่จินตนาการ ถ้าสมมติว่าเขาเข้าไปแล้วจงฮยอนออกจากห้องน้ำพอดี คงจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่



หมายถึงว่าไม่ดีต่อใจเขาเท่าไหร่ กลัวมันจะระเบิดไปตรงนั้นเลย



"ขอโทษที่ทำให้รอนะครับ" จงฮยอนออกมาพร้อมชุดใหม่และใช้ผ้าเช็ดผมลวกๆ ก่อนจะพาดอย่างลวกๆบนเก้าอี้


"ท่านประธานมีอะไรเหรอครับ"


"ผม... แค่ผ่านมาเฉยๆ" จงฮยอนขมวดคิ้วเป็นรอบที่เท่าไหร่ของวันก็ไม่รู้ แต่เขากำลังงง เพราะบ้านของเขาอยู่สุดซอย ไม่มีทางที่จะผ่านบ้านเขาไปไหนได้



ข้ออ้างฟังไม่ขึ้นเอาเสียเลยนะ...



"ยิ้มอะไรของคุณ" จงฮยอนยิ่งยิ้มกว้างขึ้นไปอีก เมื่อแอบเห็นว่าท่านประธานหูแดง


"ถ้าจะมาหาผมก็บอกก่อนก็ได้ครับ จะได้เก็บบ้านให้มันรกน้อยกว่านี้" จงฮยอนเกาท้ายทอย พลางมองไปรอบๆบ้านที่เขาไม่ค่อยทำความสะอาดเท่าไหร่ เหตุผลก็คือขี้เกียจนั่นเอง


"แล้วมาหาผมนี่มีอะไรเหรอครับ"


คำถามเดิมถูกถามซ้ำอีกครั้ง มินฮยอนอ้ำอึ้งไปเล็กน้อย เพราะเขาไม่ทันคิดหาเหตุผลมาเพื่อโกหกคนตรงหน้า จุดประสงค์จริงๆของเขาก็คือมาเพื่อหาคำตอบที่ว่าทำไมเขาถึงโทรไม่ติด



ก็ใช่.. โทรศัพท์ปริศนานั่น ก็เขาเองนั่นแหละ


"นั่นสิ... ผมมาทำอะไรนะ"


"อะไรของคุณเนี่ย" จงฮยอนแทบจะกุมขมับต่อหน้าประธานบริษัท แค่จะมาหาเขานี่ต้องคิดหนักขนาดนั้นเลยเหรอ


"คิดไม่ออกก็ค่อยมาบอกพรุ่งนี้แล้วกันนะครับ"


"เดี๋ยว"


"เดี๋ยวอีกแล้ว มีอะไรก็รีบๆพูดครับท่านประธาน" ดูท่าว่าคนตรงหน้าเขาจะเริ่มโกรธซะแล้ว บางทีเขาก็คิดนะ ว่าจงฮยอนเคยมองเขาในฐานะท่านประธานบ้างมั้ย ดูเคารพกันเหลือเกิน


"ไปกินข้าวกัน คุณคงยังไม่ได้กินอะไร"


"มาหาผมถึงนี่... เพื่อชวนไปกินข้าว? แหม เป็นเกียรติจริงๆครับ" จงฮยอนแกล้งโค้งตัวให้ ใช่ว่าเขาไม่อยากไปกินข้าวนอกบ้าน แต่เขาไม่อยากให้ใครเห็นว่าเขาทำตัวสนิทสนมกับท่านประธานบริษัทเท่าไหร่


อย่างที่เคยได้ยินมา การที่คนใหญ่คนโตจำชื่อได้ไม่ใช่เรื่องดี ถ้าจำเราในทางไม่ดีก็โดนหมายหัว แต่ถ้าเขาจำเราได้ในทางที่ดีก็จะโดนหมั่นไส้ ซึ่งเขาไม่อยากจะเป็นแบบนั้น



แต่ตอนนี้ท่านประธานจำเขาได้... แถมบอกไม่ได้เสียด้วยว่าดีหรือไม่ดี



"ไปมั้ย"


"ไม่ดีกว่าครับ เชิญท่านประธาน" จงฮยอนส่ายหน้า


ปิดโอกาสเขาอีกแล้ว...


"แล้วถ้าผมอยากกินข้าวกับคุณล่ะ"


"ก็กินที่นี่... อะไรนะครับ" จงฮยอนรู้สึกเหมือนว่าตัวเองหูฝาดไป ท่านประธานอยากกินข้าวกับเขา? กับพนักงานกินเงินเดือนคนนี้เหรอ


"จะถือว่านั่นเป็นคำชวนแล้วกันนะครับ รบกวนด้วย" พูดจบก็เดินไปนั่งรอที่โต๊ะอาหารอย่างอารมณ์ดี
นี่เขาฝันอยู่เหรอ... ทำไมท่านประธานทำตัวประหลาดจัง


"เอ่อ.. จะทานที่นี่จริงๆเหรอครับ" มินฮยอนพยักหน้า


"งั้นรอสักครู่นะครับ" จงฮยอนเลิกสงสัย แล้วเดินเข้าครัวเพื่อทำอาหาร เพราะเขาเองก็หิวมากเหมือนกัน


ไม่นาน จงฮยอนก็ทำมื้อเที่ยงสำหรับสองคนเสร็จ แล้วก็ยิ่งแปลกใจว่าท่านประธานดูจะชอบอาหารมื้อนี้เหลือเกิน ถึงจะเป็นการกระตุกมุมปากแต่เขาก็จะถือว่านั่นเป็นการยิ้ม และถ้าเขาไม่ได้คิดไปเองล่ะก็ เขาคิดว่าท่านประธานมองเขาบ่อยมากทีเดียว


"ขอบคุณนะ"


"ครับ"


"พรุ่งนี้มาทำงานก็ตั้งใจล่ะ"


"ครับ"


"ช่วยพูดอะไรที่ยาวกว่าคำว่าครับหน่อยเถอะ"


"ครับบบบบบ" ถ้าไม่ติดว่าจะเสียภาพลักษณ์ประธานบริษัท เขาจะดีดหน้าผากคนตรงหน้าจริงๆแล้ว


"กลับดีๆนะครับ"


"โอเค ไปละ"


"ครับ"


แล้วบทสนทนาก็จบด้วยคำว่าครับเหมือนเดิม....

............................

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น